MENARA : Journal of Islamic and Contemporary Issues (M-JICI)
มนารอ : วารสารประเด็นอิสลามร่วมสมัย
ISSN 2730-2547 (Online)
MENARA : Journal of Islamic and Contemporary Issues (M-JICI) / มนารอ : วารสารประเด็นอิสลามร่วมสมัย รับพิจารณาเผยแพร่ผลงานทางวิชาการออนไลน์ ประเภทผลงานวิชาการประกอบด้วยบทความวิจัย บทความวิชาการ บทวิจารณ์หนังสือ และบทความปริทัศน์ ทั้งนี้บทความต้องไม่เคยตีพิมพ์หรือเผยแพร่ในวารสารอื่นมาก่อนนับจากวันที่ผู้เขียนได้ส่งบทความฉบับนี้มายังกองบรรณาธิการ



เกี่ยวกับวารสาร MENARA : Journal of Islamic and Contemporary Issues (M-JICI)
วารสาร MENARA เป็นวารสารที่จัดพิมพ์เพื่อเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ เกี่ยวกับประเด็นอิสลามร่วมสมัยและภาษาอาหรับร่วมสมัย โดยสถาบันอิสลามและอาหรับศึกษา มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์บทความที่จะตีพิมพ์เผยแพร่ต้องเป็นไปตามรูปแบบที่วารสารกำหนด วารสารตีพิมพ์เผยแพร่ 2 ฉบับต่อปี ดังนี้ ฉบับที่ 1 (มกราคม-มิถุนายน) ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม-ธันวาคม)
กระบวนการทบทวนบทความ (Peer Review Process)
กองบรรณาธิการจะตรวจสอบคุณภาพผลงานวิชาการของผู้นิพนธ์ โดยส่งให้ผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer review) จำนวนอย่างน้อย 3 ท่าน ที่มาจากหลากหลายสถาบัน ตลอดจนมีความเชี่ยวชาญในด้านเนื้อหานั้น ๆ เพื่อประเมินคุณภาพผลงาน และพิจารณาก่อนตีพิมพ์ ทั้งนี้ ข้อความหรือข้อคิดเห็นต่างๆ ของผู้นิพนธ์ เป็นความเห็นส่วนตัว โดยกองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นชอบด้วยเสมอไป
การประเมินคุณภาพผลงานของผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นระบบไม่เปิดเผยชื่อผู้แต่ง (Double Blind- Peer Review) กองบรรณาธิการจะแจ้งความคืบหน้า และข้อเสนอแนะจากผู้ทรงคุณวุฒิแก่ผู้นิพนธ์ ผู้นิพนธ์ต้องแก้ไขบทความให้ถูกต้องครบถ้วน ตามข้อเสนอแนะจากผู้ทรงคุณวุฒิ แล้วส่งคืนเพื่อให้กองบรรณาธิการตรวจทานก่อนตีพิมพ์เผยแพร่
วัตถุประสงค์และขอบเขตของวารสาร
1. เพื่อเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ ด้านการวิจัย บทความวิชาการ บทวิจารณ์หนังสือ และบทความปริทัศน์ ที่เป็นประเด็นร่วมสมัยต่างๆ เกี่ยวกับอิสลามในประเทศอาหรับและโลกมุสลิม
2. เพื่อส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างนักวิชาการที่หลากหลายในประเด็นร่วมสมัยเกี่ยวกับอิสลามและภาษาอาหรับ ไม่จำกัดเฉพาะประเทศไทยหรือภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
3. เพื่อเป็นสื่อกระตุ้นและสนับสนุน ให้เกิดการวิจัย ค้นคว้าอย่างต่อเนื่อง
ประเภทผลงานที่ตีพิมพ์
1. บทความวิจัย (Research Article) เป็นผลงานที่ได้มาจากการค้นคว้าและวิจัยด้วยตนเอง ประกอบด้วย บทนำ วัตถุประสงค์ การทบทวนวรรณกรรม และทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง วิธีดำเนินการวิจัย ผลการวิจัย สรุปและอภิปรายผล ข้อเสนอแนะ กิตติกรรมประกาศ (ถ้ามี) และอ้างอิง
2. บทความวิชาการ (Academic Article) เป็นผลงานที่ได้จากการทบทวนวรรณกรรมทางวิชาการ มีการวิเคราะห์เปรียบเทียบ โดยมุ่งเน้นการนำเสนอความรู้ใหม่ในเชิงวิชาการ ประกอบด้วย บทนำ การทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา (เนื้อหาต้องชี้ถึงประเด็นของสิ่งที่ต้องการนำเสนออย่างชัดเจน) บทวิจารณ์หรือสรุป และอ้างอิง
3. บทวิจารณ์หนังสือ (Book Review) คือ งานเขียนที่ถ่ายทอดความคิดเห็น โดยนำเสนอเนื้อหาสาระที่เป็นความรู้ ด้วยการใช้หลักวิชาที่เหมาะสม เพื่อวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ แสดงให้เห็นถึงข้อดี ข้อด้อย โดยชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่องของหนังสือที่จะวิจารณ์ และเสนอแนวทางแก้ไข ประกอบด้วยบทนำหรือประเด็นที่จะวิจารณ์ เนื้อหา บทสรุปและข้อสังเกตที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน
4. บทความปริทัศน์ (Review Article) คือ งานเขียนที่ประเมินสถานะล่าสุดทางวิชาการเฉพาะทางที่มีการศึกษาค้นคว้า ซึ่งมีการผสมผสานแนวคิด การทบทวนความก้าวหน้าของเรื่องใดเรื่องหนึ่ง และสรุปความรู้ในเรื่องนั้น ๆ จากหลาย ๆ การศึกษาจนถึงปัจจุบัน เพื่อนำเสนอแนวคิด หรือองค์ความรู้ใหม่ โดยมีการวิเคราะห์ สังเคราะห์องค์ความรู้อย่างทันสมัย และมีข้อวิจารณ์ที่ชี้ให้เห็นแนวโน้มที่ควรศึกษาและพัฒนาต่อไป
รูปแบบและกำหนดเผยแพร่
วารสาร MENARA JOURNAL เป็นวารสารที่เผยแพร่ข้อมูลบทความวิชาการในรูปแบบออนไลน์ และมีกำหนดออกปีละ 2 ฉบับ ดังนี้
1. ฉบับที่ 1 เดือน มกราคม-มิถุนายน
2. ฉบับที่ 2 เดือน กรกฎาคม-ธันวาคม
ภาษาที่รับตีพิมพ์
1. ภาษาไทย
2. ภาษาอังกฤษ
3. ภาษามลายู
4. ภาษาอาหรับ
กองบรรณาธิการ
เจ้าของ
สถาบันอิสลามและอาหรับศึกษา มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
ที่ปรึกษา
ผู้ช่วยศาสตรจารย์ ดร. จงรัก พลาศัย
รองศาสตราจารย์ ดร. รสสุคนธ์ แสงมณี
รองศาสตราจารย์ เจ๊ะเหล๊าะ แขกพงศ์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ปรีชา สะแลแม
รองศาสตราจารย์ ดร. อานิส พัฒนปรีชาวงศ์
ศาสตราจารย์ ดร. จรัญ มะลูลีม
บรรณาธิการ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. มุสลิม คาเรง
ผู้ช่วยบรรณาธิการ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. รอฮานี มาแจ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ตัรมีซี สาและ
กองบรรณาธิการ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. มะนะพียะ เมาตี มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. มูฮำมัด วาเล็ง มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
ผู้ชวยศาสตราจารย์ ดร. อับดุลรอยะ บินเซ็ง มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. มูฮัมมัด อูมูดี มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อิบรอเฮง ดอเลาะ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. แวอัมแร แวปา มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์อาอีซะห์ แวมามะ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
ดร. ฮีซาม หะยีมะมิง มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อับดุลรอแม สุหลง มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. มูหำมัดสุใหมี เฮงยามา มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
ผศ.ดร.มูหัมมัดตอลาล แกมะ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
ดร.อิสมาแอ สนิ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
ดร.อาดีละห์ หะยีนิแว มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
รองศาสตราจารย์ ดร. มูฮามัสสกรี มันยูนุ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี
ดร. มะยูตี ดือรามะ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี
ศาสตราจารย์ ดร. อิบรอฮีม ณรงค์รักษาเขต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
รองศาสตราจารย์ ดร. นิเลาะ แวอุเซ็ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อับดุลรอนิง สือแต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สราวุธ สายทอง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ญาดุลฮัก มิ่งสมร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อับดุลฮากัม เฮ็งปิยา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สุไม บิลไบ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ยุทธนา เกื้อกูล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ดร. นุรซีตา เพอแสละ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
Prof. Dr. Mohd Nasran Mohamad National University of Malaysia
Prof. Madya. Dr. Jaffary Awang National University of Malaysia
Prof. Madya. Dr. Ahmad Munawar Ismail National University of Malaysia
Dr. Farid Mat Zain National University of Malaysia
Dr. Muhammad Razak Idris National University of Malaysia
Dr. Azmul Fahimi Kamaruzaman National University of Malaysia
Prof. Madya. Dr. Shofian Haji Ahmad National University of Malaysia
Prof. Madya. Dr. Abur Hamdi Usman Kolej Universiti Islam Antarabangsa Selangor
กองจัดการ
นายอับดุลฮาฟิซ ดอเลาะ
นายดลรามาน พันหวัง
นางสาวซัมซียะห์ เจ๊ะสาเม๊าะ
นางปิยนุช วัจนศิริ
จริยธรรมของบรรณาธิการ (Editors)
1. บรรณาธิการเป็นผู้พิจารณาความสมบูรณ์ และคุณภาพของบทความเป็นเบื้องต้น ก่อนเข้าสู่กระบวนของวารสาร โดยพิจารณาจากความเข้มข้นของเนื้อหา มีคุณภาพ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และขอบเขต ตรวจการคัดลอกผลงานทางวิชาการ และพิจารณารับตีพิมพ์บทความด้วยความโปร่งใส ไม่เอนเอียง ไม่มีอคติ และมีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้นิพนธ์และผู้ประเมินและเป็นผู้ตัดสินในเลือกบทความเพื่อเข้าสู่กระบวนการการประเมินเพื่อรับการตีพิมพ์
2. บรรณาธิการเป็นผู้ตัดสินใจเลือกบทความตีพิมพ์หลังผ่านกระบวนการประเมินแล้ว โดยพิจารณาจากความสำคัญ ความทันสมัย และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของวารสาร และกำหนดนโยบาย วัตถุประสงค์ คำแนะนำในการส่งบทความ และรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้นิพนธ์ได้รับทราบและปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและเป็นไปตามที่วารสารกำหนด
3. บรรณาธิการต้องไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ ระหว่างการดำเนินการเพื่อตีพิมพ์บทความในวารสาร ไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้นิพนธ์และผู้ประเมินและเป็นผู้ตัดสิน กระบวนการพิจารณาเป็นการพิจารณาแบบปกปิดเป็นความลับ (double-blind) เพื่อป้องกันอคติ และป้องกันปัญหาความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น
4. บรรณาธิการต้องไม่ปฏิเสธการตีพิมพ์บทความ เพราะความสงสัย แต่ต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์ก่อน
5. บรรณาธิการต้องวางใจเป็นกลาง ปราศจากอคติ ความลำเอียง และไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆ กับผู้เขียนและผู้ทรงคุณวุฒิที่ทำหน้าที่ตรวจพิจารณาบทความ ทั้งนี้ บรรณาธิการต้องปกปิดมิให้ผู้เขียนและผู้ทรงคุณวุฒิทราบถึงตัวตนของกันและกันบรรณาธิการตรวจสอบการคัดลอกผลงานของผู้อื่น โดยใช้โปรแกรมที่เชื่อถือได้ และหากพบมีการคัดลอกผลงานผู้อื่นให้ติดต่อผู้เขียนเพื่อประกอบการรับหรือปฏิเสธการตีพิมพ์บทความ
6. เมื่อบรรณาธิการได้รับผลการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิครบแล้ว ต้องตัดสินผลการประเมินด้วยความโปร่งใส ไม่เอนเอียง ไม่มีอคติ และไม่ใช้ความเห็นส่วนตัวพิจารณาว่าจะเผยแพร่บทความหรือไม่ ทั้งนี้ ต้องคำนึงถึงองค์ความรู้ที่ได้จากบทความ หลักฐานเชิงประจักษ์ที่สนับสนุนในเชิงวิชาการที่เชื่อถือได้มาเป็นเกณฑ์ในการตัดสินบทความนั้น
จริยธรรมของผู้ประเมินบทความ (Reviewers)
1. ผู้ประเมินบทความจะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ ของบทความ และผู้นิพนธ์ในทุกช่องทางแก่บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ตลอดระยะเวลาของการประเมิน
2. ผู้ประเมินบทความจะต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนใด ๆ กับผู้นิพนธ์ ไม่ว่าโดยการเป็นผู้นิพนธ์ร่วม หรือความเกี่ยวเนื่องผูกพันอื่น ๆ ที่จะทำให้ผู้ประเมินมีความลำเอียงในการประเมินหรือไม่สามารถประเมินและให้ข้อเสนอแนะได้อย่างอิสระ
3. ผู้ประเมินบทความจะประเมินบทความในสาขาวิชาที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ หรือมีความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กับศาสตร์นั้น ๆ โดยพิจารณาจากเนื้อหาของบทความ และประเมินบทความโดยพิจารณาจากความสำคัญ ความใหม่ขององค์ความรู้ ความชัดเจนและความสอดคล้องของเนื้อหา โดยปราศจากความคิดเห็นส่วนตัวที่ไม่มีข้อมูลทางวิชาการรองรับมาเป็นเกณฑ์ในการตัดสินบทความ
4. ผู้ประเมินควรตรวจสอบความซ้ำซ้อนของบทความ หากพบว่ามีการคัดลอก เจตนาให้ข้อมูลเท็จ หรือปิดบังอำพราง ควรแจ้งให้บรรณาธิการทราบ
5. ผู้ประเมินบทความสามารถเสนอแนะงานวิจัยที่สำคัญและสอดคล้องกับบทความของผู้นิพนธ์ได้ในการประเมิน ในกรณีที่ผู้นิพนธ์ไม่ได้มีอ้างถึงงานวิจัยนั้น ๆ
จริยธรรมของผู้นิพนธ์ (Authors)
1. ผู้นิพนธ์ต้องรับรองผลงานของตนเองว่าเป็นผลงานใหม่ ไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน มีความซื่อสัตย์และมีคุณธรรมทางวิชาการ ต้องให้เกียรติและอ้างถึงบุคคลหรือแหล่งที่มาของข้อมูลที่นำมาใช้และต้องปรากฏในรายการอ้างอิงท้ายบทความ
2. ผู้นิพนธ์ต้องให้ความสำคัญกับรูปแบบการเขียนบทความตามที่วารสารกำหนดไว้ โดยเฉพาะรูปแบบการเขียนเอกสารอ้างอิง
3. ผู้นิพนธ์ต้องแจ้งบรรณาธิการทันที หากพบความผิดพลาดในงานวิจัยที่ส่งผลต่อบทสรุปงานวิจัยของต้นฉบับที่อยู่ในกระบวนการประเมิน หรือบทความที่ตีพิมพ์ไปแล้ว
4. ผู้นิพนธ์บทความพึงนำผลงานไปใช้ประโยชน์ในทางที่ชอบ มีจุดมุ่งหมายในการเผยแพร่ผลงานเพื่อประโยชน์ทางวิชาการและสังคม ไม่ขยายผลข้อค้นพบจนเกินความเป็นจริง ไม่ใช้ผลงานไปในทางมิชอบ
วารสาร MENARA : Journal of Islamic Contemporary Issues (M-JICI)
กองบรรณาธิการ วารสาร MENARA : Journal of Islamic Contemporary Issues (M-JICI) ขอเชิญสมาชิกและผู้สนใจทุกท่าน ร่วมส่งบทความวิชาการ บทความวิจัย ที่เกี่ยวกับประเด็นร่วมสมัยต่างๆเกี่ยวกับอิสลามทั้งในประเทศอาหรับและโลกมุสลิม เพื่อตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร โดยผลงานที่ส่งมาต้องเป็นผลงานวิจัยที่แล้วเสร็จไม่เกิน 5 ปี ไม่เคยตีพิมพ์หรืออยู่ในระหว่างพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารอื่นเมื่อได้รับการตอบรับให้ตีพิมพ์ และกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขต้นฉบับเพื่อความเหมาะสมและเป็นไปตามเกณฑ์ที่กองบรรณาธิการกำหนด ผู้เขียนจะต้องสมัครเป็นสมาชิกของ MENARA : Journal of Islamic Contemporary Issues (M-JICI)
ชนิดของเรื่องที่จะตีพิมพ์
1. บทความวิชาการเกี่ยวกับประเด็นอิสลามหรือภาษาอาหรับที่ร่วมสมัยไม่จำกัดเฉพาะประเทศไทยหรือภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
2. บทความวิจัยประเด็นอิสลามหรือภาษาอาหรับที่ร่วมสมัยต่างๆ ถ้าเป็นวิทยานิพนธ์/ดุษฎีนิพนธ์ต้องมีหนังสือรับรองและลงนามทั้งอาจารย์ที่ปรึกษาหลัก และนิสิตผู้ทำวิทยานิพนธ์/ดุษฎีนิพนธ์
3. บทวิจารณ์หนังสือ (Book Review) คือ งานเขียนที่ถ่ายทอดความคิดเห็น โดยนำเสนอเนื้อหาสาระที่เป็นความรู้ ด้วยการใช้หลักวิชาที่เหมาะสม เพื่อวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ แสดงให้เห็นถึงข้อดี ข้อด้อย โดยชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่องของหนังสือที่จะวิจารณ์ และเสนอแนวทางแก้ไข ประกอบด้วยบทนำหรือประเด็นที่จะวิจารณ์ เนื้อหา บทสรุปและข้อสังเกตที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน
4. บทความปริทัศน์ (Review Article) คือ งานเขียนที่ประเมินสถานะล่าสุดทางวิชาการเฉพาะทางที่มีการศึกษาค้นคว้า ซึ่งมีการผสมผสานแนวคิด การทบทวนความก้าวหน้าของเรื่องใดเรื่องหนึ่ง และสรุปความรู้ในเรื่องนั้น ๆ จากหลาย ๆ การศึกษาจนถึงปัจจุบัน เพื่อนำเสนอแนวคิด หรือองค์ความรู้ใหม่ โดยมีการวิเคราะห์ สังเคราะห์องค์ความรู้อย่างทันสมัย และมีข้อวิจารณ์ที่ชี้ให้เห็นแนวโน้มที่ควรศึกษาและพัฒนาต่อไป
เงื่อนไขในการพิจารณาผลงานเพื่อตีพิมพ์
วารสาร MENARA มีข้อตกลงในการส่งผลงานวิชาการเพื่อตีพิมพ์ ดังนี้
1. ผลงานวิชาการนั้นต้องไม่เคยลงตีพิมพ์ในวารสารใดมาก่อน หรืออยู่ในระหว่างพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารอื่น ๆ ในเวลาเดียวกัน ยกเว้นเป็นผลงานวิชาการที่ได้นำเสนอในการประชุมวิชาการที่ไม่มี Proceedings
2. กองบรรณาธิการจะตรวจสอบคุณภาพผลงานวิชาการของผู้เขียน โดยส่งให้ผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านเนื้อหานั้น ๆ จำนวนอย่างน้อย 3 ท่าน เพื่อพิจารณาประเมินคุณภาพบทความก่อนตีพิมพ์
3. การประเมินคุณภาพผลงานของผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นระบบไม่เปิดเผยชื่อผู้แต่ง (Double Blind- Peer Review) กองบรรณาธิการจะแจ้งความคืบหน้า และข้อเสนอแนะจากผู้ทรงคุณวุฒิแก่ผู้เขียน ผู้เขียนต้องแก้ไขบทความให้ถูกต้องครบถ้วน ตามข้อเสนอแนะจากผู้ทรงคุณวุฒิ แล้วส่งคืนเพื่อให้กองบรรณาธิการตรวจทานก่อนตีพิมพ์เผยแพร่
การเตรียมต้นฉบับบทความวิชาการ/บทความวิจัย
1. ต้นฉบับต้องพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์โปรแกรมสำเร็จรูป MS Word 97/03 for Windows ขนาดตัวอักษร 16 อักษรปกติ แบบอักษรใช้ Dillenia New พิมพ์หน้าเดียวในกระดาษ A4 ระยะขอบกระดาษ ด้านบน-ด้านล่าง 2.54 cm ด้านใน 3.17 cm ด้านนอก 2.54 cm จำนวน 12 หน้า (ไม่รวมรายการอ้างอิง) รายการอ้างอิงไม่เกิน 40 รายการ และมีเลขหน้ากำกับทุกหน้า
2. ชื่อเรื่อง พิมพ์ไว้หน้าแรกตรงกลาง ขนาดตัวอักษร 18 ตัวหนา มีชื่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
3. ชื่อผู้เขียน พิมพ์ชื่อผู้เขียนภาษาไทยและภาษาอังกฤษ อยู่ใต้ชื่อเรื่องโดยชิดขอบกระดาษด้านขวา ขนาดตัวอักษร 14 อักษรปกติ และให้ระบุตัวเลขเป็นตัวยกท้ายชื่อผู้เขียน เพื่อแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ทำงาน และ
E-mail ของผู้เขียนบทความทุกท่าน ไว้เป็นเชิงอรรถในหน้าแรก
4. ชื่อหน่วยงานของผู้เขียน พิมพ์ชื่อหน่วยงานผู้เขียนภาษาไทยและภาษาอังกฤษ อยู่บรรทัดส่วนล่างสุด ในหน้าแรก ขนาดตัวอักษร 12 อักษรปกติ ควรระบุ หน่วยงานต้น เรียงไปจนถึง หน่วยงานหลัก และ E-mail (อย่างน้อยสำหรับผู้เขียนหลัก) และให้ระบุตัวเลขเป็นตัวยกท้ายชื่อหน่วยงานผู้เขียน เพื่อแสดงรายละเอียดชื่อผู้เขียนบทความ ทุกท่าน ไว้เป็นเชิงอรรถในหน้าแรก
5. บทคัดย่อ (Abstract) ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ความยาวไม่เกิน 20 บรรทัด หรือไม่เกิน 250 คำต่อบทคัดย่อ
6. คำสำคัญ(Key words) ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (จำนวน 3-5 คำ)
7. การเรียงหัวข้อ หัวข้อใหญ่สุด ให้พิมพ์ชิดขอบด้านซ้าย หัวข้อย่อยเว้นห่างจากหัวข้อใหญ่ 3-5 ตัวอักษร และหัวข้อย่อยขนาดเดียวกัน ต้องพิมพ์ให้ตรงกัน เมื่อขึ้นหัวข้อใหญ่ ควรเว้นระยะพิมพ์เพิ่มอีก ช่วงบรรทัด
8. การใช้ตัวเลข คำย่อ และวงเล็บควรใช้เลขอารบิคทั้งหมด ใช้คำย่อที่เป็นสากลเท่านั้น (ระบุคำเต็มไว้ในครั้งแรก) การวงเล็บภาษาอังกฤษ ควรใช้ดังนี้ (Student centered learning)
9. บทความวิจัย ให้เรียงลำดับสาระ ดังนี้
9.1 บทคัดย่อ (Abstract)
9.2 บทนำ (Introduction) ระบุความสำคัญของปัญหาการวิจัย กรอบแนวคิด และระบุวัตถุประสงค์การวิจัย
9.3 ระเบียบวิธีวิจัย (Research methodology) ระบุแบบแผนการวิจัยการได้มาซึ่งกลุ่มตัวอย่างและการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย การหาคุณภาพเครื่องมือ วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูล
9.4 ผลการวิจัย/ผลการทดลอง (Results) เสนอผลที่พบตามวัตถุประสงค์การวิจัยตามลำดับอย่างชัดเจน ควรเสนอในรูปตารางหรือแผนภูมิ
9.5 อภิปรายผล/วิจารณ์ (Discussion) เสนอเป็นความเรียง ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของผลการวิจัยกับกรอบแนวคิด และงานวิจัยที่ผ่านมา ไม่ควรอภิปรายเป็นข้อ ๆ แต่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของตัวแปรที่ศึกษาทั้งหมด
9.6 ข้อเสนอแนะ (Suggestion) ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้ และประเด็นสำหรับการวิจัยต่อไป
9.7รายการอ้างอิง (References) ต้องเป็นรายการที่มีการอ้างอิงไว้ในเนื้อหาเท่านั้นและให้เขียนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด (แนบรายการอ้างอิง ภาษาไทยมาด้วย)
10. บทความวิชาการ ประกอบด้วย
– บทคัดย่อ (Abstract)
– บทนำ (Introduction)
– เนื้อเรื่อง (Content) แสดงสาระสำคัญที่ต้องการนำเสนอตามลำดับ
– บทสรุป (Conclusion)
– ข้อเสนอแนะ (Suggestion)
– รายการอ้างอิง (References)
11. การเตรียมเอกสารอ้างอิง
ให้ใช้ APA Formatted References, 6th edition ศึกษารายละเอียดได้ที่ http://www.wooster. edu/psychology/apa-crib.html
ตัวอย่างการเขียนเอกสารอ้างอิง
1. การอ้างอิงในเนื้อหา
ใช้ระบบนาม-ปี (Name – year system) ชื่อผู้แต่งภาษาไทยให้แปลเป็นภาษาอังกฤษและผู้แต่งภาษาอังกฤษให้เขียนเฉพาะนามสกุล ทุกคน ถ้ามากกว่า 6 คน ให้ใส่ชื่อ 6 คนแรก ตามด้วย et al.,
ดังตัวอย่าง
(Siriphan, 2016)
(Jaranai, Kraithaworn, & Piaseu, 2016)
(Chongchareon, Kahawong, Apichato, Sangchandr, Chukumneard, Boonsin et al., 2016)
2. การอ้างอิงท้ายบทความ
บทความทั่วไป ชื่อผู้แต่งภาษาไทยและผู้แต่งภาษาอังกฤษ ใส่ชื่อสกุลผู้ร่วมงานทุกคน ถ้าไม่เกิน 6 คน ให้ใส่ชื่อทั้ง 6 คน หากมากกว่า 6 คน ให้ใส่ชื่อ 6 คนแรกตามด้วยคำว่า “et al.,” สำหรับรายการอ้างอิงที่ไม่มีภาษาอังกฤษ ให้แปลเป็นภาษาอังกฤษทั้งข้อความ และให้วงเล็บ (in Thai)
ดังตัวอย่าง
Chartbunchachai, W. & Chotklom, P. (2013) Statistic of Patients who use Emergency Medical System (EMS Service) and the Patients who come to Receive Treatment at Emergency Rooms (ER Visit) of the hospitals under Office Permanent Secretary, Ministry of Public Health the fiscal year 2011. Trauma & Critical Care Center, Khon Kaen hospital: (in thai)
Suriyawongpaisarn, P., Srithamrongsawat, S., Hempisut, P., Aueasiriwon, B., Pholpark, A., Wannasri. A., et al., (2013) The Emergency Management System of the Regional Emergency Medical System. Health Insurance System Research Office (HISRO). Health System Research Intitute (HSRI). (in thai)
- ผู้เขียนเป็นกลุ่มหน่วยงาน
National Institute of Emergency Medicine. (2014). The gap of Thai Emergency Medicine: Report Emergency Medical Service System 2013. (1st ed.) Bangkok. NP Press
Muangjunburee, P. (2012). Welding Engineering. Songkhla: Educational Technology, Faculty of Engineering, Prince of Songkla University.
2.3 การอ้างอิงเฉพาะบทในหนังสือ
Sahieam, C. (2014). Nurse case management for clients with diabetes mellitus. In Sindhu S, Wongrod P. (editor). Case management for clients with diabetes mellitus and hypertension (2nd ed.) (pp.9-46). Bangkok: Wattanakanpim Printting.
Benedyk, J. (2010). Aluminum alloys for lightweight automotive structures. Materials, Design and Manufacturing for Lightweight Vehicles, Woodhead Publishing Series in Composites Science and Engineering, 79-113.
2.4 การอ้างอิงเอกสารจากอินเตอร์เน็ต
Kraonual, S. (2008). Impacts of the Unrest Situation in the Three Southern Border Provinces on Health Care Service System. Retrieved from http://www.deepsouthwatch.orgsites/default/files/Sunee%20-%20HealthSystem.pdf
Inada, K. A. (1995). Buddhist reponse to the nature of human rights. Journal of Buddhist Ethics Retrieved May 21, from http://www.psu.edu/ jbe.html
2.5 วิทยานิพนธ์
Siriphan, S. (2011). Development of an Instructional Model Emphasizing Cultural Competency of Nursing Students. A Dissertaion Submitted in Partial Fulfillment of the Requirements for the Doctor of Philosophy School of Educational Studies Sukhothai Thammathirat Open University. (in thai).
Tarrin Attachariya. (2009). Bayesian Alphas Predictability of the UK matket. Master’s Thesis, Department of Banking and Finance, Faculty of Commerce and Accountancy, Chulalongkorn University (in thai).
2.6 บทความในวารสาร
Sangnimitchaikul, W. (2012). Student-centered learning: A case study of Instructional model in
the nursing care of children and adolescents course at the faculty of Nursing, Thammasat University. Journal of Nursing and Education, 5(2), 64-76.
ตัวอย่างการเขียนบทความตามรูปเเบบของวารสาร
1. รูปเเบบบทความในภาษาไทย (Download)
2. รูปเเบบบทความในภาษาอังกฤษ (Download)
3. รูปเเบบบทความในภาษาอาหรับ (Download)
4. รูปเเบบบทความในภาษามลายู (Download)
ข้อแนะนำในการส่งต้นฉบับ
ขั้นตอนการส่งบทความวิชาการ/วิจัย ผ่านระบบออนไลน์
เนื่องด้วย วารสาร MENARA : Journal of Islamic Contemporary Issues (M-JICI) กำลังดำเนินการให้เป็นวารสารออนไลน์จึงขอให้ผู้นิพนธ์ส่งผลงานเพื่อตีพิมพ์ โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. เตรียมไฟล์ต้นฉบับตามคำแนะนำการเตรียมต้นฉบับ
2. ลงทะเบียนสมาชิก เข้าเว็บไซต์ https://www.tci-thaijo.org/index.php/pnujr/login ทำตามคำแนะนำสำหรับการใช้งานเบื้องต้นของระบบ ThaiJO (สำหรับผู้แต่ง Author) ซึ่งมีรายละเอียดตามหัวข้อดังนี้
- การสมัครสมาชิกวารสาร (Author Register) (ผู้ใช้ยังไม่มี Username, Password ในระบบ ThaiJO)
- การส่งบทความ (Submission)
รอตรวจสอบสถานะ การตอบรับ/ปฏิเสธ ทาง E-mail
ขั้นตอนการส่งบทความวิชาการs/บทความวิจัย
ผู้นิพนธ์ ทั้งบุคคลภายใน และภายนอก ตรวจสอบและศึกษาขั้นตอนการส่งบทความวิชาการ/วิจัย พร้อมดาวน์โหลดเอกสารที่เกี่ยวข้องได้ที่เว็บไซต์ http://aias.pnu.ac.th/index
Research Articles
Policy
Copyright Notice
1. บทความหรือข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ปรากฏในวารสารวิจัยMENARA : Journal of Islamic Contemporary Issues (M-JICI) ที่เป็นวรรณกรรมของผู้เขียน บรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
2. บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ MENARA : Journal of Islamic Contemporary Issues (M-JICI)
นโยบายส่วนบุคคล
ชื่อและที่อยู่อีเมลที่ป้อนในเว็บไซต์วารสารนี้จะใช้สำหรับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในวารสารนี้เท่านั้นและจะไม่เผยแพร่เพื่อวัตถุประสงค์ในกิจกรรมอื่นๆ
ค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์
ผู้เขียนจะต้องลงทะเบียนและชำระค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์ภายหลังจากที่กองบรรณาธิการพิจารณาความสมบูรณ์ และความถูกต้องตามรูปแบบแล้ว โดยจะมีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางวารสาร โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. การชำระค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์
– ตึพิมพ์บทความฉบับภาษาไทย
1) บุคคลภายในมหาวิทยาลัย 2,000 บาท 2) บุคลากรภายนอกมหาวิทยาลัย 3,000 บาท
– ตีพิมพ์บทความฉบับภาษาอังกฤษ อาหรับ และมลายู
1) บุคคลภายในมหาวิทยาลัย 3,000 บาท 2) บุคลากรภายนอกมหาวิทยาลัย 4,500 บาท
2. หากบทความได้ถูกส่งให้ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินคุณภาพแล้ว กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิไม่คืนเงินค่าธรรมเนียมให้กับผู้เขียน ไม่ว่าบทความจะได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารวิจัยหรือวิชาการหรือไม่ก็ตาม
3. ขั้นตอนการชำระเงิน
– เมื่อได้รับหนังสือแจ้งให้ชำระเงินค่าตีพิมพ์บทความ ที่ส่งให้ ทาง email และ https://so06.tci-thaijo.org/index.php/M-JICI/index (ในกล่อง Discussions)
– ให้ท่านเข้าสู่การโอนเงินเพื่อเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ (สถาบันอิสลามฯ) ธนาคารกรุงไทย / Krungthai Bank เลขที่บัญชี 9056039415 รบกวนเขียนระบุในสลิป “ค่าวารสาร มนารอ”
– เมื่อโอนเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว โปรดส่งหลักฐานการโอนเงินมาที่ https://so06.tci-thaijo.org/index.php/M-JICI/index (ในกล่อง Discussions) หรือโทรศัพท์ แจ้งการโอนเงินไปที่ ผศ.ดร. มุสลิม คาเรง 0878895496
ติดต่อเรา
หลากหลายช่องทางที่ท่านสามารถติอต่อ
สถาบันอิสลามและอาหรับศึกษา มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
99 หมู่ 8 ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส 96000
Email Address
habba_yabnee@hotmail.com | rohanee.m@pnu.ac.th
Phone Number
ผศ. ดร.มุสลิม คาเรง Tel. 087 889 5496
ผศ. ดร.รอฮานี มาเเจ Tel. 098 073 9975


