ประวัติความเป็นมาของหลักสูตร
หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชากฎหมายอิสลาม (ชะรีอะฮฺ) สถาบันอิสลามและอาหรับศึกษาได้มีการจัดทำขึ้นภายหลังจากศึกษาดูงานการจัดการเรียนการสอนและเจรจาความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์กับมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร ประเทศอียิปต์ ระหว่างวันที่ 25-29 กันยายน 2548 โดยคณะกรรมการจัดทำร่างหลักสูตรประกอบด้วยอาจารย์สถาบันอิสลามและอาหรับศึกษา ได้แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.หะสัน หมัดหมาน อาจารย์รอฮีม นิยมเดชา และผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก สภามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ได้อนุมัติหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชากฎหมายอิสลาม (ชะรีอะฮฺ) ในคราวประชุมเมื่อ วันที่ 29 สิงหาคม 2550 และได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2551
หลักสูตรสาขาวิชากฎหมายอิสลาม (ชะรีอะฮฺ) สถาบันอิสลามและอาหรับศึกษาเริ่มดำเนินการจัดการศึกษาและเปิดรับนักศึกษาใหม่รุ่นแรกในภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2550 โดยมีนักศึกษาจำนวน 11 คน และมีนักศึกษาเพิ่มขึ้นในปีต่อ ๆ มา
ภายหลังจากได้ดำเนินการหลักสูตรครบรอบ 4 ปี สาขาวิชากฎหมายอิสลาม (ชะรีอะฮฺ) สถาบันอิสลามและอาหรับศึกษา ได้ดำเนินการปรับปรุงหลักสูตรในปี 2554 และได้ดำเนินการจัดการเรียนการสอนตั้งแต่ปีการศึกษา 2554 จนถึงปีการศึกษา 2558 ภายหลังจากนั้น ได้มีการปรับปรุงหลักสูตร (ครั้งที่ 2) และประกาศใช้ในปี พ.ศ. 2559 และในปีการศึกษา 2564 ได้มีการปรับปรุงหลักสูตร (ครั้งที่ 3) และประกาศใช้ ในปี พ.ศ. 2564 จนถึงปีการศึกษา 2568
สถาบันอิสลามและอาหรับศึกษา มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร และมีพิธีลงนาม เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2551 และได้มีการจัดทำหลักสูตรเทียบโอนผลการเรียนกับหลักสูตรชะรีอะฮฺอิสลามียะฮฺมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร ประเทศอียิปต์เพื่อรองรับนักศึกษาที่ประสงค์จะเข้ามาศึกษาต่อในสาขาวิชากฎหมายอิสลาม สถาบันอิสลามและอาหรับศึกษา มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
ปรัชญาของหลักสูตร
มุ่งจัดการศึกษาเชิงบูรณาการศาสตร์กฎหมายอิสลามที่วางอยู่บนรากฐานแห่งคัมภีร์อัลกุรอานและซุนนะฮ์ เพื่อตอบสนองความต้องการพัฒนาคนและสังคมร่วมสมัย บัณฑิตสามารถคิดวิเคราะห์และประยุกต์ใช้กฎหมายอิสลามในการดำเนินชีวิต การประกอบอาชีพ และการดำรงตนในสังคมพหุวัฒนธรรม
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับหลักสูตร
หลักสูตรสาขาวิชากฎหมายอิสลาม เป็นหลักสูตรที่ประมวลหลักปฏิบัติในศาสนาอิสลามไว้อย่างครอบคลุมทั้งบทบัญญัติว่าด้วยศาสนกิจและกิจวัตรประจำวัน ตลอดจนความสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์และกับสิ่งแวดล้อม เป็นหลักสูตรที่มุ่งพัฒนาคนและสังคมด้วยหลักธรรมคำสอนทางศาสนาอิสลาม ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความสำรวมตน ตระหนักในสิทธิและหน้าที่ที่พึงปฏิบัติทั้งต่อตนเองและผู้อื่นตลอดจนต่อพระผู้เป็นเจ้า ท่ามกลางสังคมที่เสื่อมคุณธรรมจริยธรรมและมีความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วในปัจจุบันยากที่จะคุ้มครองป้องกันด้วยระบบกฎหมายใดได้ เนื่องจากกฎหมายโดยทั่วไปมักควบคุมเฉพาะพฤติกรรมภายนอกไม่สามารถควบคุมจิตใจ กฎหมายอิสลามเป็นบทบัญญัติที่ได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาคนและสังคมสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตมนุษย์ในหลายยุคหลายสมัยและยังคงเหมาะสมที่จะนำมาปรับใช้ในสังคมปัจจุบัน ขณะนี้ประเทศไทยมีการปรับปรุงการใช้กฎหมายเกี่ยวกับมุสลิมให้สอดคล้องกับหลักบัญญัติทางศาสนาอิสลามหลายฉบับ เช่น พระราชบัญญัติว่าด้วยการใช้กฎหมายอิสลามในเขตจังหวัดปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสตูล พ.ศ. 2489 พระราชบัญญัติบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ. 2540 พระราชบัญญัติธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2545 และอื่น ๆ ดังนั้น การจัดการศึกษาในหลักสูตรกฎหมายอิสลามจึงมีความสำคัญต่อการใช้กฎหมายเหล่านี้ให้มีความถูกต้อง ตลอดจนการปรับปรุงพัฒนารูปแบบและวิธีการปรับใช้กฎหมายอื่นๆ ของประเทศให้มีความเหมาะสมและเกิดความสงบสุขร่มเย็นในสังคมพหุวัฒนธรรม เป็นหลักสูตรที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนในท้องถิ่น สอดคล้องกับการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีความสงบสุข มั่นคงและยั่งยืน
หลักสูตรได้ด้านินการจัดทำหลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.2564 ภายใต้แนวคิดการจัดการศึกษาที่มุ่งผลลัพธ์ (outcome based education) เต็มรูปแบบ และเริ่มใช้ในภาคการศึกษา 1/2564 ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตบัณฑิตที่
1. มีความรู้ความเข้าใจบทบัญญัติและแหล่งที่มาของกฎหมายอิสลาม
2. มีทักษะการอ่านอัลกุรอาน และเข้าใจเจตนารมณ์แห่งอัลกุรอาน สามารถอธิบายตารานิพนธ์ทางกฎหมายอิสลาม
3. สามารถอธิบายหลักการวิเคราะห์ วินิจฉัยทางกฎหมายอิสลามตามแนวทางของนักปราชญ์มัซฮับต่าง ๆ โดยเฉพาะมัซฮับชาฟิอี
4. สามารถวิเคราะห์ประเด็นร่วมสมัยในการประยุกต์ใช้กฎหมายอิสลามเกี่ยวกับกิจการฮาลาลและอื่นๆ
5. มีจิตสานึกสาธารณะ มีทักษะภาวะผู้นา มีวินัย มีความรับผิดชอบ มีความยุติธรรม และสามารถสื่อสารด้วยภาษาที่หลากหลาย
6. มีความสามารถใช้เทคโนโลยี มีคุณธรรม จริยธรรม และมีจรรยาบรรณทางวิชาการ สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมพหุวัฒนธรรมได้อย่างมีความสุข
ผลลัพธ์การเรียนรู้ระดับหลักสูตร
เพื่อผลิตบัณฑิตให้มีคุณลักษณะดังต่อไปนี้
1. สามารถอธิบายบทบัญญัติและแหล่งที่มาของกฎหมายอิสลามได้อย่างถูกต้องชัดเจน
2. มีทักษะการอ่านอัลกุรอานและเข้าใจเจตนารมณ์แห่งอัลกุรอาน
3. สามารถอ่านและอธิบายตารานิพนธ์ทางกฎหมายอิสลาม
4. สามารถอธิบายหลักการวิเคราะห์ วินิจฉัยประเด็นทางกฎหมายอิสลามตามแนวทางของมัซฮับต่างๆ โดยเฉพาะมัซฮับชาฟิอี
5. สามารถประยุกต์ใช้กฎหมายอิสลามเกี่ยวกับกิจการฮาลาลและอื่นๆ ในชีวิตประจาวัน
6. แสดงพฤติกรรมความซื่อสัตย์ มีจิตอาสา มีภาวะผู้นา มีวินัย มีความยุติธรรม และมีความรับผิดชอบ ในการทางานร่วมกับผู้อื่น
7. สามารถสื่อสารด้วยภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ (ภาษาอาหรับหรือภาษามลายูหรือภาษาอังกฤษ)
8. สามารถใช้เทคโนโลยีในการศึกษาค้นคว้าและเผยแผ่ความรู้ในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างสร้างสรรค์
รหัสและชื่อหลักสูตร
ภาษาไทย : หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชากฎหมายอิสลาม
ภาษาอาหรับ : الإجازة العالية (الليسانس) في الشريعة الإسلامية
ภาษาอังกฤษ : Bachelor of Arts Program in Islamic Law
ชื่อปริญญาและสาขาวิชา
ชื่อเต็ม (ไทย): ศิลปศาสตรบัณฑิต (กฎหมายอิสลาม)
ชื่อย่อ (ไทย): ศศ.บ. (กฎหมายอิสลาม)
ชื่อเต็ม (อาหรับ): الإجازة العالية (الليسانس) في الشريعة الإسلامية
ชื่อเต็ม (อังกฤษ) : Bachelor of Arts (Islamic Law)
ชื่อย่อ (อังกฤษ) : B.A. (Islamic Law)
รูปแบบของหลักสูตร
1. รูปแบบ : หลักสูตรระดับปริญญาตรี หลักสูตร 4 ปี
2. ประเภทของหลักสูตร : หลักสูตรปริญญาตรีทางวิชาการ
3. ภาษาที่ใช้ : ใช้ภาษาอาหรับ ภาษามลายูกลาง ภาษาอังกฤษ และภาษาไทยในการจัดการเรียนการสอน
4. การรับเข้าศึกษา : รับนักศึกษาไทยและนักศึกษาต่างชาติ ที่สามารถพูด ฟัง อ่าน เขียน และเข้าใจภาษาอาหรับและภาษาอื่นๆที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอน
จุดเน้น จุดเด่นของหลักสูตร
จุดเด่นของหลักสูตรหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชากฎหมายอิสลามหลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2564 คือ
– เป็นหลักสูตรที่ประมวลหลักปฏิบัติในศาสนาอิสลามไว้อย่างครอบคลุมทั้งบทบัญญัติว่าด้วยศาสนกิจและกิจวัตรประจำวัน
– เป็นหลักสูตรที่มุ่งพัฒนาคนและสังคมด้วยหลักธรรมคำสอนทางศาสนาอิสลาม
– เป็นหลักสูตรที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนในท้องถิ่น สอดคล้องกับการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีความสงบสุข มั่นคงและยั่งยืน
อาชีพที่สามารถประกอบได้หลังสำเร็จการศึกษา
- ดะโต๊ะยุติธรรม
- นิติกรด้านกฎหมายอิสลาม
- วิทยากร ผู้สอนด้านกฎหมายอิสลาม
- นักวิชาการด้านกฎหมายอิสลาม
- พนักงานในหน่วยงานของรัฐและเอกชน
- ประกอบอาชีพอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายอิสลาม
อาจารย์ประจำหลักสูตร สาขาวิชากฎหมายอิสลาม
ที่ | ชื่อ – นามสกุล | ตำแหน่งทางวิชาการ | คุณวุฒิ/สถาบัน | ปีที่จบ |
1 | นายเจ๊ะเหล๊าะ แขกพงศ์ | รองศาสตราจารย์
| – M.A. Islamic Law, High of Islamic Studies Institute, Egypt. -B.A. Islamic Law, Al-Azhar University, Egypt. – น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง | ค.ศ. 2000
ค.ศ. 1995
พ.ศ. 2530 |
2 | นายอิบรอเฮง ดอเลาะ | อาจารย์
| – Ph.D. Islamic Law, University Utara, Malaysia. – M.A. Comparative Jurisprudence, Al-Azhar University, Egypt. B.A. Islamic Law, Al-Azhar University, Egypt. | ค.ศ. 2019
ค.ศ. 2006
ค.ศ. 2002 |
3 | นายอับดุลรอยะ บินเซ็ง | ผู้ช่วยศาสตราจารย์ | -ปร.ด. อิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ – M.A. Comparative Jurisprudence, The Islamic University, Iraq. – B.A. Islamic law (Shari’ah), Saddam University, Iraq. | พ.ศ. 2562
ค.ศ. 2004
ค.ศ. 2000
|
4 | นางสาวรอฮานี มาแจ | อาจารย์ | -Ph.D. Islamic Studies (Islamic Law), National University of Malaysia, Malaysia –M.A. Islamic Studies (Islamic Law), National University of Malaysia, Malaysia – B.A. Islamic Studies (Islamic Law), Al-Azhar University, Egypt | ค.ศ. 2018
ค.ศ. 2012
ค.ศ. 2008 |
5 | นายสมชาย ภูมิมาโนช
| อาจารย์ | มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ – ศศ.บ. สาขาวิชากฎหมายอิสลาม มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ | พ.ศ. 2560
พ.ศ. 2557 |
โครงสร้างหลักสูตร
มีจำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตร 136 หน่วยกิต
หมวดวิชาศึกษาทั่วไป 31 หน่วยกิต
หมวดวิชาเฉพาะด้าน 99 หน่วยกิต
กลุ่มวิชาแกน 17 หน่วยกิต
กลุ่มวิชาเฉพาะด้าน 82 หน่วยกิต
กลุ่มวิชาเลือก 82 หน่วยกิต
หมวดวิชาเลือกเสรี 6 หน่วยกิต
ระบบอุทธรณ์ของนักศึกษาหลักสูตรฯ โดยมีขั้นตอน ดังนี้
1. นักศึกษาสามารถยื่นคำร้องขออุทธรณ์ผลการเรียนต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิชาการ
2. จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิชาการเสนอรองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ
3. นำเข้าสู่คณะกรรมการประชุมพิจารณาเสนอผู้อำนวยการเพื่ออนุมัติผลการอุทธรณ์
4. แจ้งผลการอุทธรณ์แก่นักศึกษาโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิชาการ
5. นักศึกษาสามารถยืนได้ไม่เกิน 10 วันหลังจากเกรดออก
6. นักศึกษาจะทราบผลอุทธรณ์ภายใน 15 วัน นับจากประชุมคณะกรรมการหลักสูตรฯ
นอกจากนี้หลักสูตรฯได้เปิดช่องทางเพื่อการรับความคิดเห็นและการร้องเรียน โดยผ่านอาจารย์ที่ปรึกษา ทาง Line กลุ่มนักศึกษาและคณาจารย์ และอีเมล์อาจารย์ รวมทั้งได้เปิดช่องทางให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นหือร้องเรียนทางเว็บเบอร์ดของเว็บไซต์สถาบันอิสลามฯ (aias.pnu.ac.th) ตลอดจนมีการติดตามพูดคุยและรับข้อร้องเรียนต่างๆจากนักศึกษาเพื่อการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือนักศึกษาเบื้องต้นหรือเสนอต่อหัวหน้าสาขาหลักสูตรฯ เพื่อพิจารณาตามขั้นตอนที่กำหนดต่อไป
ติดต่อสอบถาม
โทรศัพท์ 086 491 9792 (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อิบรอเฮง ดอเลาะ – ประธานหลักสูตร), 081 478 2872 (ผศ.ดร.อานิส พัฒนปรีชาวงศ์) / โทรสาร 0-7370-9030 ต่อ 3555
E-mail: ibrorheng.d@pnu.ac.th
เว็บไซต์ : http://www.aias.pnu.ac.th